ตอนนี้ที่เชียงราย มีการริเริ่มก่อตั้งศูนย์โฮมสกูลขึ้น ให้กับเด็กๆประมาณ ๕ คน
โดยเริ่มจากจัดค่ายเด็กที่สวนขวัญนา เป็นเวลา ๕ วัน
เด็กมีอายุในช่วงตั้ง ๕ ถึง ๑๑ ขวบ
พอได้รับฟังเรื่องราวจากน้องก็รับรู้ว่า
การเรียนรู้นั้นเกิดขึ้นตลอดเวลา
เพียงจัดสรรให้เกิดโอกาส ผ่านกิจกรรมต่างๆ
การเรียนรู้เป็นธรรมชาติของชีวิต
พี่เลี้ยงหรือครูทำหน้าที่หล่อเลี้ยงกระบวนการเรียนรู้นั้น
ผมได้พูดคุยกับเพื่อนชาวเนเธอแลนด์ เขาเรียนด้านการเป็นครู
เขาบอกว่า ตอนนี้วิธีคิดเรื่องการศึกษาที่นั่น ได้เห็นว่า
ครูเป็นผู้จัดสรรโอกาสและกระบวนการเรียนรู้ได้นักเรียนได้เรียนรู้
ด้วยตัวเอง
ไม่ได้ยัดเยียดความรู้ให้เป็นก้อนๆหรือชุดๆ
หรือให้ก็ต่อเมื่อนักเรียนพร้อม หรือมีความสนใจพอ
ครูคือกระบวนกรนั่นเอง (facilitater)
และการเรียนรู้ก็เกิดในความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด
ความรู้นั้นงอกงามในสัมพันธภาพที่เอื้อเฟื้อ เกื้อกูลและศรัทธา
ผมรู้สึกว่า ระบบการศึกษาทุกวันนี้ เด็กเรียนซ้ำๆ ใช้เวลาเยอะมาก
เรียนในโรงเรียนแล้วยังต้องไปเรียนพิเศษต่อตอนเย็นอีก
สู้เรียนพิเศษเสียอย่างเดียว
แล้วเอาเวลาที่เหลือเรียนรู้อย่างอื่นน่าจะดี
เพราะถ้าเรียนพิเศษเป็นไปเพื่อการสอบให้ได้
ก็จัดการให้เรียบร้อยเสีย
เพื่อที่จะเลื่อนขั้นระดับการศึกษาไปเรื่อย
เพียงแต่ว่าเวลาที่เหลือของชีวิต น่าจะได้เรียนรู้ในสิ่งที่งดงาม
ได้รู้จักตัวเอง และสังคมไปเรื่อยๆ
ไม่เช่นนั้นก็จะได้แต่บัณฑิตที่มีแต่วุฒิการศึกษา
แต่ความรู้จักตัวเองและโลกนั้นน้อยนัก
ผมอยากเห็นเด็กๆที่ยังรับรู้และแสดงออกความคิดเห็น
หรือความรู้สึกอย่างตรงไปตรงมา
มีพื้นที่ที่เขาจะได้เรียนรู้ถึงความยิ่งใหญ่
และสง่างามของการดำรงชีวิตอยู่
ความหมายของการได้เกิดมาเป็นมนุษย์ บ
นดาวเคราะห์อันงดงามและมหัศจรรย์นี้
โฮมสกูลก็น่าจะเป็นทางเลือกหนึ่ง
ของการให้การศึกษาเพื่อหล่อเลี้ยงกระบวนการเรียนรู้ดังกล่าว
1 comment:
เมื่อพูดถึงชุมชนนักปฏิบัติ หรือ Community of Practices (CoPs) เรามักมองไปที่มนุษย์ตัวโต ๆ
แต่บ้านเรียน หรือ Homeschool กำลังสร้าง"ชุมชนนักปฏิบัติ"ให้เกิดขึ้นกับมนุษย์ทั้งตัวโตและตัวเล็ก เด็ก-พ่อแม่-ครู-และเพื่อนรอบชีวิต
Post a Comment