
Education as a Spiritual Journey Part 1
"กลับสู่บ้าน"
โดย ฟางหอม
กลิ่นอายของป่า ดิน โชยมา ตั้งแต่พี่ชายของฉันพูดว่าเราจะไปวิเวกกัน
ที่ป่าแห่งหนึ่งของหมู่บ้านปกากยอ สัมภาระที่ใส่ในเป้ใบโต ถูกแบกไว้เหนือหลัง
เพื่อมุ่งหน้าสู่ดินแดนที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน
เส้นทางที่เปี่ยมไปด้วยธรรมชาติ ความจริง ที่ง่ายงามของสรรพสิ่ง ทำให้ฉันเหมือนหลุดลงไปอีกโลกหนึ่ง
ก่อนออกเดินทางพี่ได้ให้ผ้าพันขอ และ ภาวนาให้ฉันเดินทางอย่างปลอดภัย
เมื่อเสียงระฆังดังขึ้น ฉันสิโรราบให้กับความทะเยอทยาน ความกลัว และตัวตน
จากนั้นก็ย่ำก้าวลงไป บ่ายหน้า เดินทางกลับบ้าน
..
ทางนี้เป็นเส้นทางสายเปลี่ยว เพียงเสียงใบไม้ตกกระทบ ยังสร้างความหวาดกลัว
ฉันเดินต่อไป เรื่อยๆ
หาพื้นที่ ที่เชื่อมโยง และเหมาะสมกับฉัน
ฉันพบมันแล้ว
มองลงไปข้างๆที่ฉันยืนเป็นหน้าผาสูง มีที่ราบบางส่วนที่พอจะนอนได้
ฉันนั่งลง ก่อไฟ และจัดที่นอน
อากาศเย็นเริ่มปะทะตัว
ความมืดเริ่มย่างกรายเข้ามาไกล้ทุกที
ฉันควานหาปากกา ก่อนที่จะให้ความรู้สึกและข้อความบางอย่าง ไหลลงไปในสมุดจด
" ใครบ้างที่จะฉุดรั้งดวงตะวัน
ในขณะที่ฉันพยายามก่อไฟ "
ความมืดทำให้ไฟที่ก่อแลดูลุกโชติช่วง มีเพียงเสียงไฟเผาไหม้ไม้ฟืนดังแปะๆ
ความเงียบงัน เล่าเรื่องราวมากมาย
ฉันรู้จัก "สิ่งนั้น" มากขึ้น โดยไม่ปรุงแต่ง
หูที่เงี่ยฟังอย่างตั้งใจ ทำให้รู้ว่าเป็นเพียงเสียงต้นไม้ปลิดใบไม่ใช่สัตว์ร้าย
ไม้ฟืนเริ่มมอด และ ดับ
ฉันหงายตัวนอน ขนานกับแสงจันทร์ เบื้องหน้ามีกิ่งไม้รำไร พริ้วไหวไปตามลม
ทุกอย่างก็ปลอดภัยดี ฉันคิด
ร่างกายที่เกร็ง เริ่มผ่อนคลาย
พลางขยับปากร้อง เพลงโปรด you'r have got a friend
เหมือนฉันร้องให้เพื่อนของฉัน เหมือนฉันจะบอกทุกๆสิ่งที่สถิตอยู่ ณ ที่นี้
ว่าเราเป็นหนึ่งเดียวกัน พึ่งพิง และโอบรับกันและกัน
เพลงต่อมา คือ นกสีเหลือง และต่อมาคือ แสงดาวแห่งศรัทธา เพลงที่แม่ร้องไห้ฟังตั้งแต่เด็ก
" ขอเยาะเย้ย ทุกข์ยากขวากหนามลำเข็ญ คนยังคงยืนเด่นโดยท้าทาย แม้ผืนฟ้ามืดดับเดือนลับมลาย..
ร้องยังไม่ทันจบท่อน แสงสีขาวเล็กๆกระพริบได้ เข้ามาไกล้ และบินวน
หิ่งห้อย..
หิ่งห้อย ตัวน้อย หนึ่งตัว
ฉันร้องเพลงต่อ น้ำตาแห่งความปิติบางอย่างล้นออกมา
และขอน้อมรับปรากฎการณ์ทุกอย่างที่จะเกิดขึ้น
No comments:
Post a Comment