Saturday, May 17

เหงื่อไคลไหลล้นมิตรภาพ





การได้อยู่เมืองเล็กๆดีดีเหมือนกัน นอกจากไปไหนมาไหนง่ายแล้ว ยังมีกิจกรรมน่ารักๆ ให้ได้ไปด้วย
เมื่อวานได้ไปดูบาสเก็ตบอลท้องถิ่น จัดโดยชมรมคนรักบาสเชียงราย ทำให้เราได้ใช้ชีวิตนอกจอทีวีหรือคอมพิวเตอร์บ้าง ผมเองตอนสมัยเรืยนหนังสือก็ใช้ชีวิตบนสนามบาสไม่น้อย อยู่กับเหงื่อไคล ร่างกายและการเคลื่อนไหวที่ไม่ต้อง "พยายาม" คิดมาก ผมว่ามนุษย์กับแผ่นดิน หรือlandscape มันคุ่กัน จะเดินหรือวิ่งบนดิน ก็เป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเรากับแผ่นดินอีกทางหนึ่ง กีฬาก็เป็นกิจกรรมที่ช่วยบำบัดคนยุคปัจจุบันได้มาก อย่างน้อยร่างกายก็ได้ใช้ศํกยภาพเต็มที่ ช่วยให้จิตใจได้ผ่อนคลายไปด้วย

สมัยเด็กๆ ยุคที่ทีวีมีเพียงช่องสองช่อง คอมพิวเตอร์ยังไม่มี มีแต่โรงหนังท้องถิ่นตั้งสองสามโรง และก็กีฬาท้องถิ่นนี่แหล่ะที่พ่อแม่ชอบพาเราไป ผมชอบบรรยากาศการเชียร์กีฬาข้างสนามมาก มันสนุก ตื่นเต้น เร้าใจ มีส่วนร่วมดี
ส่วนมากเราจะไปดูบาสเก็ตบอลกัน พ่อจะเชียร์บาสอย่างเปิดเผยมาก เหมือนมีคนออกเสียงพากไปด้วย
ท่าทางลีลาออกทั้งร่างกาย มือไม้เท้าเป็นหนึ่งไปทางเดียวกันหมดในช่วงที่ต้องลุ้นสุดๆ

มาตอนหลัง ยิ่งทีวีเป็นสี มีหลายช่อง ตอนนี้มีเคเบิ้ลทีวีอีก การเชียร์กีฬานอกบ้านเลยเกือบจะกลายเป็นอดีตไปเลย
จนกระทั่งเมื่อไม่กี่วันมานี้ น้องสาวโทรหาผม(ตอนที่ผมยังอยู่กรุงเทพ)บอกว่าให้รีบกลับมาดูบาสเก็ตบอลที่เชียงราย พอกลับมาก็ทำตัวเองให้ว่างเพื่อไปดูบาสกับครอบครัว

มันอธิบายไม่ถูกจริงๆว่า ความเรียบง่ายอย่างนี้มันให้ความสุขเพียงใด ต้องขอบคุณคนที่พยายามจัดงานเช่นนี้ขึ้นมา เพื่อให้คนท้องถิ่นได้มาพบกัน แม้ว่าบาสเก็ตบอลจะไม่ใช่กีฬายอดนิยม แต่ในฐานะที่เป็นคนรักบาส ผมคิดว่ากีฬาอะไรก็ได้ที่ทำให้เรามีพื้นที่ทางสังคมร่วมกัน เพื่อทำอะไรสักอย่างที่ไม่ใช่เพียงการแสวงหากำไรแบบเงินตราเท่านั้น บางทีเหงื่อไคลและมิตรภาพก็เป็นกำไรชีวิตที่หาซื้อไม่ได้ แต่ต้องเข้ามามีส่วนร่วมเท่านั้น

Friday, May 16

ผู้นำ ๔ ทิศ

เราทุกคนล้วนมีทิศทั้ง ๔ อยู่ในตัว อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการเติบโตและการบ่มเพาะของครอบครัวและสังคม เราแต่ละคนจะมีทิศเด่นบางทิศประจำตัว เป็นสิ่งที่ทำได้อย่างเป็นธรรมชาติ ความคุ้นชินเหล่านี้ (ไข่แดง)แตกต่างกันไปตามทิศ เช่น บางคนเป็นกระทิงที่มุ่งมั่น พลังงานสูง มันส์และสนุกในการทำงานที่ได้ลงไม้ลงมือตลอดเวลา เป็นต้น แต่นั่นก็มิได้เป็นทั้งหมดของเรา ไม่ใช่เป็นธรรมชาติเดิมแท้ของเราไม่ เพราะเราคือความเป็นไปได้ เราเป็นได้มากกว่าที่เราคิดหรือเชื่อว่าเราเป็นอะไร

การทำงานหรือการอยู่ร่วมกับผู้อื่นนั้นจำต้องการอาศัยความเข้าใจที่ว่า ทุกคนต่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร มีจุดแข็งของตัวเอง ตามทิศต่างๆ มีมุมมอง วิธีคิด นิสัยใจคอ ที่แตกต่าง หากเราสามารถยอมรับความแตกต่างอย่างเคารพและชื่นชมได้ เราก็จะได้เรียนรู้จากคนอื่นที่แตกต่างจากเราได้ ให้เขาเหล่านั้นได้มีพื้นที่ในชีวิตเรา เสริมเติมเต็มกันและกัน และมากไปกว่านั้นอีก เราเองก็สามารถจะเป็นทิศต่างๆตามที่สถานการณ์ในชีวิตเรียกร้องให้เราเป็น อย่างไม่ต้องยึดติดกับวิธีการหรือตัวตนของเราที่เป็นมา แล้วชีวิตเราก็จะมีพลังและมีประสิทธิภาพในการเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ต่างๆได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งจำต้องอาศัยความรู้เนื้อรู้ตัวอยู่เสมอ และน้อมรับมุมมองจากคนรอบข้างที่อาจช่วยเป็นกระจกสะท้อนให้กับตัวเราได้เห็นตัวเองในด้านที่เราอาจจะไม่เคยมอง


ทิศเหนือ กระทิง fire
Motivation คือ การได้เห็นผลลัพธ์
Result and Action-oriented
กระทำการรวดเร็ว fast (often first) to act พลังพุ่งออก เสี่ยง ท้าทาย มุ่งมั่น
กล้าได้กล้าเสีย Risk taking
เรียนรู้ผ่านการลงไม้ลงมือปฏิบัติ ปัญญาปฏิบัติ direct experience, achievement
เปิดเผย ตรงไปตรงมา ชัดเจน self-express
ถือสัจจะ คำมั่นสัญญา กล้าเผชิญความไม่แน่นอน ลุย เน้นที่เจตนา “จริงใจซะอย่าง” Intention-based
“ทุกอย่างทำได้หากตั้งใจมุ่งมั่น”
ปัญหาอยู่นอกตัว โทษคนอื่น
ยืนยันความต้องการของตัวเอง Assertiveness

“ชีวิตต้องสู้ นิ่งเฉยไม่ได้”
รักยุติธรรม protective ปกป้องพวกพ้อง
มีอะไรที่จะต้องทำต่อไป what’s next to be done
มีพลังในความเร่งด่วน ฉุกเฉิน sense of urgency
รู้สึกมีค่าเมื่อได้ให้การช่วยเหลือ เน้นการให้
Love to provide
เผชิญหน้ามากกว่าหลีกหนี
“ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น”

ทิศใต้ หนู water
Motivation คือ การรักษาสัมพันธ์ maintain connection-relationship-wholeness
ไว้ต่ออารมณ์ความรู้สึกของตัวเองและคนรอบข้าง
ยืดหยุ่น ผ่อนปรน หล่อเลี้ยงดูแล แปรสภาพปรับตัวตามความต้องการของคนรอบข้าง
ให้คุณค่ากับคนอื่นมากกว่าตัว
พลังน้อมรับเข้า หลอมรวม เป็นหนึ่งเดียวกัน
พร้อมโอนอ่อนผ่อนตามมากกว่าแตกหัก
น้อมรับไว้ก่อน Easy to say YES first!
มักให้พื้นที่คนอื่นก่อน (ให้พูดก่อน ทำก่อน) give ways to others
อยากให้ทุกคนรักกัน สมานฉันท์ตลอดเวลา
ความรู้สึกต่อกันสำคัญมาก (กว่าหลักการเหตุผล)
ไม่ชอบการปฏิเสธหรือการถูกปฏิเสธ
ไม่ชอบการกระทบกระทั่งหรือสร้างความอึดอัดรำคาญใจให้คนรอบข้าง
รักความสะดวกสบาย อบอุ่น ปลอดภัย
หล่อเลี้ยงชีวิตด้วยความรักและกำลังใจ
ไม่ชอบถูกคนรังเกียจ
โทษตัวเองก่อน

ทิศตะวันตก หมี earth
เหตุผล ตรรกะ ใคร่ครวญ
ดูท่าที คิดวิเคราะห์ ก่อนลงมือกระทำการ รอบคอบ
เสถียรภาพ มั่นคง แน่นอน รัดกุม clean & clear
ตัดสินบนฐานข้อมูล Fact/Data oriented
เป็นระบบระเบียบ แบบแผน ชัดเจน “ช้าแต่ชัวร์”
มุ่งประสิทธิภาพ ทำตามแผน ไม่ชอบไร้ระเบียบ
สม่ำเสมอ ทำซ้ำๆ วินัย comfortable with routine
มีเขตแดนของตัวเองชัดเจน
ไม่ชอบเข้าสังคมมากนัก เพราะวุ่นวาย
หาความสมบูรณ์ ลงตัว ครบถ้วน
มักมองไปที่ความบกพร่อง หรือส่วนขาดได้เร็ว
มองไปข้างหน้าเพื่อเตรียมรับมือกับอุปสรรค Foresee obstacles
ไม่ยอมให้อารมณ์สำคัญกว่าเหตุผลหรือหลักการ
เข้มงวดควบคุมตัวเอง สิ่งแวดล้อม และคนรอบข้าง
Self-controller
ให้คุณค่ากับความถูกต้องตาม หลักเกณฑ์ หลักการ ระบบ แบบแผน


ทิศตะวันออก อินทรีย์ wind
มองกว้าง ไกล เชื่อมโยง
คิดนอกกรอบ สร้างสรรค์ รักสนุก ความแปลกใหม่
ไม่ชอบซ้ำเดิม หรือเหมือนใครอื่น ชอบความแตกต่าง มีเอกลักษณ์
ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ทดลอง
เปลี่ยนแปลงเร็ว ขี้เบื่อ
ให้คุณค่ากับการคิดได้ใหม่
อิสรภาพ และการมีทางเลือกมากกว่าหนึ่งทาง
ไม่ชอบอยู่ในแบบแผนซ้ำเดิม
สนใจในเรื่องราวหรือโครงการใหม่ๆเสมอ
ชอบความเป็นไปได้ สด ใหม่ ไม่ซ้ำซาก
Everything is possible

Thursday, May 8

อาศรมชาลิกา

อาศรมชาลิกา (Shaliga Ashram)

(เรื่องราวนี้เขียนไว้นานแล้ว ประมาณปี 1999 ลองเอามาแบ่งปันกันอ่านดู)

อย่างที่ว่ากันว่า เมื่อสุนัขจนตรอก ก็ย่อมกัดไม่เลือกหน้าเพื่อรักษาชีวิตของตัวเองอย่างสุดกำลัง ได้ฟังเรื่องราวของพี่ชายคนหนึ่งชื่อ “ตู่” ก็อดคิดไม่ได้ว่าชีวิตของแกก็ไม่ต่างไปจากการต่อสู้แบบหมาจนตรอกเท่าไรนัก เป็นชีวิตที่ไม่เคยก้มหัวให้กับใคร และนี่ก็มีผลให้พี่อู๊ด เจ้าของร้านชาลิกา ไม่ค่อยชอบขี้หน้าแกเท่าไหร่นัก เพราะบ่อยครั้งที่พี่ตู่พูดไม่เข้าหูแก ชนิดที่ขี้หูกระฉอกเพราะรับฟังไม่ได้เอาเลยทีเดียว แถมยังแสดงออกทางสีหน้าและคำพูดอยู่บ่อยๆ คู่นี้เป็นเหมือนไม้เบื่อไม้เมา

พี่อู๊ดมักตัดสินอะไรอย่างตามอำเภอใจอย่างเอาแต่ได้ แม่งข้าวหนึ่งทัพพีก็ยังจะแดกเงินจากแขกตั้ง หนึ่งเหรียญ คนสั่งอาหารไม่ครบราคา ๑๐ เหรียญก็มองเขาอย่างเป็นสถุลหรือขยะสังคม แต่ก็อ้างโน่นอ้างนี่งูงู ปลาปลา หวังตักตวงกำไรให้มากที่สุดและเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ แขกหลายคนมาครั้งเดียวแล้วก็คงไม่มาอีกเลย

บ่อยครั้งที่แกมักหลอกตัวเองว่าร้านชาลิกาที่ลูกค้าประจำเยอะ แขกบางคนยืนยันอย่างหนักแน่นว่าไม่เคยมากินอาหารที่ร้านนี้เลย เพราะอยู่ต่างฟากทวีป และนี่เป็นครั้งแรกของเขา พี่อู๊ดก็ยังดื้อดึงยืนยันอยู่นั่นแหล่ะว่าจำหน้าได้ว่าเคยมา เป็นการกุเรื่องให้ทะเลทรายกลายเป็นมหาสมุทร หากคนเราหลอกตัวเองได้ถึงเพียงนี้ ก็ไม่ต้องห่วงมาจะสามารถปลิ้นปล้อนหลอกลวงคนอื่นได้มากขนาดไหน
นี่คงเป็นอีกตัวอย่างของการพยายามถือครองเอาความเชื่อชุดหนึ่งว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ เพราะเป็นสิ่งที่ให้ความรู้สึกมั่นคงและปลอดภัยของอัตตา ความยึดมั่นถือมั่นในตัวตน เพื่อว่าจะได้ไม่ต้องเปลี่ยนจากที่เป็นอยู่ I am okay, and nothing is wrong with me!

ผมเองอาศัยทนได้มากกว่าพี่ตู่หน่อย เลยรอดสายตาอีแร้งคอยถลกหนังหัวไปได้ไปเป็นวันๆ
จะว่าไปแล้วเราการที่ต้องมาทำใจอดทนกับความบัดซบนี่มันทำให้ชีวิตดูเลวระยำจริงๆ การที่ต้องมาเป็นผู้ตามรับใช้เป็นข้าทาสคนที่ไร้ซึ่งความเป็นผู้นำและความเป็นมนุษย์ (ฟังดูแรงไปหน่อย แต่ไม่อยากแก้ครับ) นี่มันก็ไม่ต่างกับการเยี่ยวรดกางเกงตัวเอง… เหม็นและขำไม่ออก เป็นความงี่เง่าหรือความสมยอมหรืออะไรก็แล้วแต่ ที่แน่ๆ…ขำไม่ออก

แต่ก็ไม่ถึงขนาดขมขื่นหรอกครับ เพราะอย่างน้อยก็มีเรื่องสนุกๆเขียนไปเล่าให้พ่ออ่านเล่นยามเกษียร ถ้าพ่อรวบรวมไว้เรื่อยๆ สักวันอาจพิมพ์เป็นพอกเก็ตบุ๊คได้จนรวยเละ…

ยิ่งวันพฤหัสที่ผ่านมา เราทำตัวเลขยอดขายได้สูงทีเดียว เป็นวันที่ได้ค่าทิปดีที่สุดเท่าที่ผมเคยทำมา คือ ๑๒๕เหรียญ (ยังไม่รวมค่าแรงอีก ๒๐ เหรียญ) แม้เหนื่อยมาก แต่ก็ต้องถือว่าคุ้ม ที่เหนื่อยเพราะต้องทำกับคนที่พึ่งเข้ามาใหม่ พอเป็นงานบ้าง แต่ก็ยังไม่เข้าขากันเหมือนทำกับพี่ตู่ ผมเองก็ต้องทำหน้าที่นำเสนอขายลูกเดียว โดยเฉพาะอาหารจานพิเศษราคาสูง เช่น ปูอ่อนพะแนง (Panang Soft Shell Crab) หรือ Shrimp Avocado หรือ พระรามลงสรง (Chicken Rama) เป็นต้น ก็สนุด เจ้าเปโตรที่เป็นRunnerอาหารชาวเม็กซิกันก็พลอยดีใจไปด้วย

พี่ตู่เคยออกความเห็นว่า “ณัฐ..นายน่ะ เป็นคนมีความสามารถ ตั้งหลายอย่าง โดยเฉพาะการผูกมิตรกับผู้คนและภาษา แถมยังรู้เรื่องเยอะเกี่ยวกับชีวิต เมื่อเทียบกับคนรุ่นราวคราวเดียวกัน ไม่น่ามาทำงานแค่เสริพอาหาร”
“ก็ผมมันนิสัยเสียตรงที่ไม่ค่อยกระตือรือล้นดิ้นรนหางานดีๆทำ รอให้สวรรค์บันดานแล้วงานดีดีอย่างว่าคงจะหล่นตุบลงมากองอยู่หน้าตัก” ผมตอบ

นี่ก็เป็นนิสัยที่ทำให้เอมี่หงุดหงิดประจำ แต่เขาก็เริ่มจะเข้าใจแล้ว เราเป็นเหมือนสัตว์จำพวกเสือ ใช้เวลาส่วยใหญ่ในการพักผ่อน จะกระตือรือล้นก็ต่อเมื่อหิวจริงๆเท่านั้น ช่วยไม่ได้ อยากถูกเลี้ยงมาสบาย หากชีวิตได้ลำบากบ้างก็คงจะเปลี่ยนบ้าง แต่ก็ไม่ควรจะมีใครมาคาดหวังกับเรานัก

จริงๆแล้วการกลับไปทำงานที่ชาลิกานี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ลำบากใจอยู่ไม่น้อย มันขัดกับหลักการภายในมาก แต่ก็ถือเอาเป็นการฝึกจิตไปเสีย คิดเสียว่านี่เป็นเรื่องท้าทายกว่าการอยู่ในชุมชนที่แวดล้อมไปด้วยคนที่มีระบบคุณค่าและการมองโลกคล้ายๆกัน อย่างเช่นที่อาศรมเป็นต้น